ประโยชน์ของสมถกรรมฐานและวิปัสสนากรรมฐาน
สมถกรรมฐานและวิปัสสนากรรมฐานมีประโยชน์มาก
คือ
1.ทำคนให้ฉลาด
เพราะจะรู้จักทั้งบัญญัติและปรมัตถ์เป็นอย่างดี ละเอียดรอบคอบขึ้นมาก.
2.ทำคนให้มีศีลธรรมและวัฒนธรรมอันดีงาม
3.ทำคนให้สนิทสนมกลมกลืนกัน
กรุณาเอ็นดูสงสารกัน พลอยยินดีอนุโมทนาสาธุการเมื่อเห็นผู้อื่นได้ดี
4.ทำคนให้เว้นจากเบียดเบียนกัน
เว้นจากการเอารัดเอาเปรียบกัน
5.ทำคนให้รู้จักตัวเอง
และรู้จักปกครองตัวเอง
6.ทำคนให้ว่านอนสอนง่าย ไม่มานะถือตัว
ไม่เย่อหยิ่งจองหอง
7.ทำคนให้หันหน้าเข้าหากัน
เพราะต่างฝ่ายต่างลดทิฏฐิมานะลง
8.ทำคนให้หนักแน่นในกตัญญูกตเวทิตา
1.เพื่อละนิวรณ์
5
2.เพื่อละกามคุณ
5
3.เพื่อหัดให้คนเป็นผู้รู้จักประหยัด
4.เพื่อละอุปาทานขันธ์
5
5.เพื่อละสังโยชน์เบื้องต่ำ
คือ สักกายทิฏฐิ วิจิกิจฉา สีลัพพตปรามาส กามฉันทะ พยาบาท
6.เพื่อละคติ
4 คือ นรกภูมิ เปตติวิสัยภูมิ อสุรกายภูมิ และดิรัจฉานภูมิ เมื่อได้ญาณ 16 ในวิปัสสนากรรมฐานโดยเด็ดขาดไม่ว่าจะเกิดอีกกี่ชาติ
(พระโสดาบันเกิดไม่เกิน7ชาติเป็นอย่างมาก)
ส่วนสมถกรรมฐานเมื่อได้ฌานที่ 1
ขึ้นไปก็อาจนำไปเกิดในพรหมโลกได้แต่ก็ยังคงเวียนว่ายมาเกิดในอบายถูมิ4ได้อีกในชาติต่อๆไป ดังนั้น สมถกรรมฐานจึงไม่ใช่การปฏิบัติที่ละ อบายภูมิ 4 ได้โดยเด็ดขาด
7.เพื่อละความตระหนี่
5 คือ ตระหนี่ที่อยู่ ตระหนี่ตระกูล ตระหนี่ลาภ ตระหนี่วรรณะ ตระหนี่ธรรม
8.เพื่อละสังโยชน์เบื้องบน
คือ รูปราคะ อรูปราคะ มานะ อุทธัจจะ อวิชชา
9.เพื่อละตะปูตรึงใจ
5 คือ สงสัยในพระพุทธ สงสัยในพระธรรม สงสัยในพระสงฆ์ สงสัยในสิกขา
ความโกรธไม่พอใจในเพื่อนพรหมจรรย์
10.เพื่อละเครื่องผูกพันจิตใจ
5 คือ ไม่ปราศจากความชอบใจทะยานอยากในกาม ในรูป ความสุขในการกิน การนอน
การรักษาศีลเพื่อเทพนิกาย
11.เพื่อก้าวล่วงความโศกเศร้าเสียใจ
(ทุกข์ทั้งหลาย) ดับทุกข์โทมนัส เพื่อบรรลุมรรคผลนิพพาน
12.อานิสงส์อย่างสูงให้สำเร็จเป็นพระอรหันต์
อย่างกลางก็ให้สำเร็จเป็นพระอนาคามี สกทาคามี โสดาบัน
อย่างต่ำไปกว่านั้นที่เป็นสามัญ ก็เป็นผู้ที่มีคติเที่ยงที่จะไปสู่สุคติ
13.ชื่อว่า
ได้บูชาพระพุทธเจ้าด้วยปฏิบัติบูชา
14.ชื่อว่า
เป็นผู้มีความจงรักภักดีต่อพระพุทธเจ้า
15.ชื่อว่า
เป็นผู้ได้บำเพ็ญสิกขา 3 คือ ศีล สมาธิ ปัญญา
16.ชื่อว่า
เป็นผู้ไม่ประมาท เพราะมีสติอยู่กับรูปนามเสมอ ความไม่ประมาทนั้นคือ
อยู่อย่างมีสตินั่นเอง
17.ชื่อว่า
ได้เป็นผู้ทรงธรรม
18.ชื่อว่า
ได้เป็นผู้ปฏิบัติถูกต้อง
19.ชื่อว่า
ได้ปฏิบัติตามมรรคมีองค์ 8 ทางสายกลาง
20.ชื่อว่า
ได้เข้าถึงพระรัตนตรัยอย่างแท้จริง คือถึงด้วยอำนาจแห่งการปฏิบัติ คือ อธิศีล
อธิจิต อธิปัญญา ได้แก่ ศีล สมาธิ ปัญญา ที่เกิดกับการเจริญวิปัสสนากรรมฐาน
ตั้งแต่ ภังคญาณ เป็นต้นไป จนถึง มรรคญาณ ผลญาณ และปัจจเวกขณญาณ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น